ฺฟันกับความสมดุล



ใครคงจะเคยฟันผุกันทั้งนั้น ผมเองมีประสบการณ์ไม่ค่อยดีกับการทำฟันตั้งแต่
เล็กๆ เคยถอนฟันน้ำนมครั้งเดียว 8 ซี่ ตอนอายุ 6 ขวบ กว่า30 ปีมาแล้ว จนวัน
นี้ถ้าไม่มีปัญหาอะไรหนักหนาสาหัส ก็ไม่อยากไปหาหมอฟัน แต่ก็ต้องไปหาจนได้

.........ผมมีปัญหาฟันผุเพิ่มจากการอุดครั้งก่อนเมื่อปีกว่ามาแล้ว หมอแนะนำว่าน่าจะทำครอบฟัน
เพราะแก้ปัญหาได้ระยะยาว ถ้าอุดเหมือนเดิมก็จะหลุดอีกและอาจผุเพิ่มอีก คราวนี้อาจถึงรากฟัน
เรื่องใหญ่เลยคราวนี้ ปัญหาอยู่ที่ว่าค่าอุดกับค่าทำครอบฟันมันต่างกันมาก ค่าอุดหลักร้อย แต่ค่า
ครอบฟันนั้นหลักพันแก่ๆหรือเกินหมื่นขึ้นอยู่กับวัสดุที่เลือก ผมเองสอบถามข้อมูลกับหมออยู่นาน
พยายามหาวิธีที่เจ็บตัวน้อยสุด และก็ประหยัดตังนั่นหล่ะครับ คิดว่าฟันเหมือนกำแพงปูน ถ้าแตก
ไป ก็หาปูนมาฉาบปิดไว้ก็สิ้นเรื่อง ผมสงสัยว่าทำไมเวลาอุดฟันจึงต้องทำให้วัสดุอุดมีรูปร่างลักษณะ
ใกล้เคียงสภาพฟันเดิมมากที่สุด ทำไมไม่ทำเรียบๆอุดไปก็ไม่น่ามีอะไร หมอบอกว่าฟันคนเรา
สามารถเคลื่อนที่ได้ หากสภาพที่สมดุลของมันเปลี่ยนแปลงไป มันจะพยายามปรับสมดุล
ใหม่ ให้สามารถใช้งานได้ดีที่สุดเท่าที่สภาพของมันจะอำนวย ดังนั้นเมื่อฟันผุ บิ่นแตกไป
เวลา อุดต้องทำให้ใกล้เคียงสภาพเดิมของมันมากที่สุดนั่นเอง หมอบอกว่าเดี๋ยวนี้เทคโนโลยี
ด้านวัสดุพัฒนาไปมากแล้วละเอียดมากในระดับนาโนเทคโนโลยีเลยทีเดียวต่างจากสมัยก่อน
มาก แต่ผมว่ายังไงก็เจ็บเหมือนเดิมหล่ะครับ ผมคงต้องทำครอบฟันไปตามระเบียบ

....................คความจริงแล้วเราอยู่ภายใต้กฏแห่งความสมดุลที่เป็นหัวใจของฮวงจุ้ยก็ว่าได้
เราอาจจะลืมนึกไปยกตัวอย่าง เช่นนอนน้อยไปทำให้สุขภาพเสื่อมโทรมต้องนอนให้พอดี
กินน้อยไปสุขภาพก็แย่ต้องกินให้พอดี แม้กระทั่งฟันของเรายังต้องปรับหาสมดุลเลย หากใคร
เข้าใจหลักฮวงจุ้ยดี จะไม่ใช้ฮวงจุ้ยแสวงหาความร่ำรวยแต่จะใช้ฮวงจุ้ยเพื่อแสวงหาความสมดุล
หรือความพอเพียงนั่นเอง